จัดกลางทุก elements ในหน้า shop ของ woocommerce
ด้วย css สั้นๆ เพียงไม่กี่บรรทัดแค่นี้ครับ
info : http://www.primathemes.com/documentation/centering-product-elements-on-shop-page/
จัดกลาง elements หน้า shop woocommerce
ด้วย css สั้นๆ เพียงไม่กี่บรรทัดแค่นี้ครับ
info : http://www.primathemes.com/documentation/centering-product-elements-on-shop-page/
การจะมีเว็บไซต์ที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอย่างดีเยี่ยม นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะว่าในทุกวันนี้ที่เทคโนโลยีมีผลสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างต้องทำการใส่ใจ อัพเดทข่าวสาร ให้ทันกับสถานการณ์ตลอดเวลา การออกแบบเว็บไซต์ให้ออกมาสอดคล้องกับจุดประสงค์ต่างๆ ก็นับเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ และสิ่งที่ต้องตระหนักอย่างยิ่งก็คือกลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร
ในบรรดาหลายสิบล้านเว็บไซต์ที่ทำออกมาอย่างต่อเนื่อง มีเพียงเว็บไซต์จำนวนไม่มากที่สามารถเป็นที่จดจำของผู้ใช้งานทางอินเตอร์เน็ตได้เป็นอย่างดี และผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์ ต้องมีความรู้ด้านการโปรโมทเว็บไซต์ การทำให้เว็บไซต์ถูกค้นหา ค้นเจอได้ง่าย ไม่เช่นนั้นแล้วผลร้ายก็จะตกไปอยู่กับเจ้าของเว็บไซต์ ที่ลงทุนทำให้เว็บไซต์ไปแล้วไม่สามารถให้คนเข้าถึงได้
ด้วยเหตุนี้การที่ท่านจะหาผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์ จำเป็นที่จะต้องมีฟังก์ชั่นในการแชร์การลิ้งกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค ต้องรู้เรื่องการโปรโมทและการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ให้มีคนเข้ามาใช้งานด้วย เพราะเว็บไซต์ไม่ว่าจะดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีคนเข้ามาดูก็หมดความหมาย
สิ่งที่น่าคิดคือ เราพยายามทำเว็บไซต์ออกมาให้ดีที่สุด สวยงามที่สุด แล้วจะมีคนเข้ามาชมเว็บไซต์คุณได้อย่างไร คำถามคือ คนอยู่ที่ไหนกันล่ะ ผมคิดว่า facebook น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในเวลานี้ เฟสบุ๊คมีผู้ใช้งานเยอะมาก และใช้งานกันวันละหลายครั้ง ลองสังเกตง่ายๆครับ เราเปิดเฟสบุ๊คบ่อบกว่าเช็คเมลเสียอีก ดังนั้นการทำเว็บไซต์ให้เชื่อมโยงกับเฟสบุ๊คเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดแล้วในเวลานี้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือช่วยโพสลงเฟสบุ๊ค หรือการเอาลิ้งเว็บไซต์ในหน้าต่างๆ มาแปะวางแล้วโพสโดยตรง ก็ทำให้มีโอกาสที่คนจะเห็นเว็บเรามากขึ้น หรือถ้าใครมีทุนมากหน่อยการลงโฆษณากับ facebook ก็ช่วยได้มากครับ
เมื่อลงโฆษณากับเฟสบุ๊คนั้น ท่านสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายให้เห็นโฆษณาได้ ไม่ว่าจะเป็น เพศ ช่วงอายุ ถิ่นที่อยู่อาศัย ฯ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ช่วยให้โฟกัสคนที่จะเห็นโฆษณาได้ตรงกับสินค้าหรือบริการของเรา เช่นถ้าท่านทำเว็บขายสินค้าสุภาพสตรี ก็เลือกคนที่จะเห็นโฆษณาให้เป็นเพศหญิง เป็นต้น
การทำ Facebook Comment แทรกลงในเว็บไซต์นั้นมีข้อดีตรงที่ user ไม่ต้อง login เพื่อที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะได้ผ่านการยืนยันตัวตนจาก Facebook มาขั้นตอนนึงแล้ว ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการใช้ปลั๊กอินที่มีให้โหลดฟรีจาก wordpress.org และการนำโค้ด (get code) จาก developers.facebook.com มาวางโดยไม่ใช้ปลั๊กอิน ซึ่งไม่ว่าจะทำแบบไหนจะมีข้อเสียอยู่ คือ ไม่มีการแจ้งเตือนเมื่อมีใครมาคอมเมนท์
เป็นปลั๊กอิน Facebook Comment ฟรี ที่สามารถส่งการแจ้งเตือนไปทาง Email ที่ได้ตั้งค่าเอาไว้ วิธีใช้งานก็ไม่ยาก แค่ติดตั้งแล้วใส่ค่าต่างๆ ตามคำแนะนำ ก็ใช้งานได้ทันที ดาวน์โหลดได้ที่ https://wordpress.org/plugins/facebook-comments-notifier/ สำหรับใครที่ใช้งานแล้วไม่มีการแจ้งเตือน ต้องตั้งค่า SMTP เพียงดาวน์โหลดปลั๊กอินตั้งค่า SMTP ตามที่เค้าแนะนำได้ที่นี่ครับ http://wordpress.org/extend/plugins/wp-mail-smtp/
สำหรับใครที่ get code มาตรงๆ ก็สามารถทำการแจ้งเตือนได้ตามขั้นตอนในลิ้งด้านล่างนี้ครับ
http://geek.ng/2012/08/new-facebook-comment-box-for-blogger-with-notifications-enabled-2.html
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimisation คือการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ ให้โดนใจเครื่องมือค้นหาชื่อดังอย่าง Google (search engine) จนสามารถขึ้นมาอยู่หน้าแรก หรืออันดับต้นๆได้ จึงทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะถูกคลิ๊กเข้ามายังเว็บไซต์
เราจะต้องรู้ก่อนว่า Google ชอบหรือไม่ชอบอะไร ในเรื่องเนื้อหาเว็บไซต์ ที่สำคัญๆมีดังนี้
การทำ seo ให้กับบทความนั้น แค่นึกถึงคนอ่าน ว่าเค้าน่าจะค้นหาบทความนี้ด้วยคำว่าอะไรได้บ้าง
การทำ SEO มีความซับซ้อนและมันยากที่จะอธิบาย มีหลายองค์ประกอบที่ต้องใช้ร่วมกัน และปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ตามสิ่งที่ Google กำหนด ยังมีเสิร์ชเอนจินที่น่าทดลองใช้งานอีกเยอะ มาดูวิดีโออธิบายการทำงานของ search engine กัน เพื่อทำการปรับปรุงเว็บไซต์ของเราให้โดนใจ search engine มากที่สุดครับ
Magento ธีม สำหรับร้านค้าขนาดใหญ่ ทางเลือกที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นร้านค้าออนไลน์ ระบบเว็บไซต์ E-commerce คุณภาพสูงระดับมืออาชีพ รองรับหลายหลายภาษา Multi Stote
by Zurb for Magento 1.7
9 เทคนิคการ ทำเว็บไซต์ ในบทความนี้เป็นการรวมรวบโดยเว็บไซต์ Genetechsolutions ซึ่งจะสามารถตอบคำถามได้ว่า ทำไมบางเว็บไซต์ธุรกิจจึงไม่ประสบความเร็จ และไม่ได้ผลตอบรับเท่าที่ควร
1. รู้ถึงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ – การรู้จักและเข้าใจข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็น เพศ, ช่วงอายุ, พฤติกรรมและรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ล้วนเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยใน การสร้างเว็บไซต์
2. การ Coding บนเว็บไซต์นั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้โปรแกรมที่ไม่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์โหลดได้เร็ว สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคืออัตราส่วนของข้อมูลที่เป็นข้อความหรือ Text ซึ่งเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานและยังใช้เวลาในการโหลดข้อมูลน้อยกว่า
3. เลือกใช้โทนสีบนเว็บไซต์ให้เข้ากัน เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจบนเว็บไซต์ รวมไปถึงยังช่วยสร้างจุดดึงดูดและสร้างทัศนคติในด้านบวกที่มีต่อแบรนด์โดยเฉพาะภาพลักษณ์ด้านความน่าเชื่อถือ
4. ควรมีการระบุถึงนโยบายในการทำธุรกิจที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น การซื้อสินค้า, การชำระเงินและการขนส่งสินค้า
5. ผลการสำรวจพบว่า “Free” เป็นคำที่มีอิทธิพลในการตลาดที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ดีกว่าคำศัพท์อื่นทั่วไป ดังนั้นหากต้องการสร้างความโดดเด่นน่าสนใจให้กับเว็บไซต์ คำว่า Free เป็นอีกหนึ่งคำที่ไม่ควรพลาด
6. เสนอช่องทางในการติดต่อกับแบรนด์แบบออนไลน์ และแบบฟอร์มกรอกอีเมล จะช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกสะดวกสบายในการติดต่อมากขึ้นอีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ในเวลาเดียวกัน
7. การออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งานเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชม การตรวจสอบลิงค์เสีย (Broken Link) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาผู้ใช้
8. ใช้โซเชียลมีเดีย – โซเชียลมีเดียเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางเสริมที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงยังเป็นวิธีในการขยายกลุ่มลูกค้า ไปยังกลุ่มผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียที่มีจำนวนมาก
9. มีการอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเว็บไซต์มีประสิทธิภาพและมีความสมบูรณ์ในการทำธุรกิจ ก็จะช่วยดึงยอดขายที่จะตามมาในอนาคต
ที่มา: Genetechsolutions
โดยทีมงาน : รับทำเว็บไซต์ เชียงใหม่
การแปลภาษาในเวิร์ดเพรสนั้นสามารถใช้ปลั๊กอินฟรีซึ่งมีอยู่หลายตัว เช่น Codestyling Localization, xili-language, Polylang
ตอนนี้เราจะพูดถึง ตัวนี้ครับ Codestyling Localization
เว็บไซต์ www.woothemes.com แนะนำมา http://docs.woothemes.com/document/third-party-custom-theme-compatibility/ ความจริงปลั๊กอินตัวนี้สามารถแปลภาษาไทยได้ทุกตัวอักษร ทุกปลั๊กอินในระบบของเวิร์ดเพรสเลย นั่นหมายความว่าแปลได้ทั้งเว็บเลยครับ ถ้าเราไม่ชอบคำไหนในระบบของ เวิร์ดเพรส ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามใจเราเลยครับ ยกตัวอย่างเช่นคำว่า Read More มาเริ่มกันเลยดีกว่า..
ขั้นแรกให้ดาวโหลด ติดปลั๊กอิน Codestyling Localization และเปิดใช้งานปลั๊กอินให้เรียบร้อยก่อนครับ
จากนั้นให้ไปเปิดไฟล์ wp-config.php อยู่ที่ root โฟล์เดอร์ public_html ด้วย text editor อะไรก็ได้ครับ (notepad, dreamweaver)
แก้นิดเดียวครับ หาบรรทัดนี้ครับ define (‘WPLANG’, ‘th’);
แก้เป็น define (‘WPLANG’, ‘th_TH’);
เสร็จแล้วกลับมาที่ admin ของเวิร์ดเพรสครับ ไปที่เมนู เครื่องมือ > Localization
จะเห็นว่ามีให้เลือกแปลได้ทุกตัวเลยเลยครับแม้กระทั่งตัวระบบเวิร์ดเพรสเอง และปลั๊กอินตัวอื่นๆ แต่ตอนนี้เรากำลังจะแปลปลั๊กอิน woocommerce ให้คลิ๊กที่ Plugins > เลื่อนลงไปที่ WooCommerce ครับ
ที่ด้านขวามือ จะเห็นว่า woocommerce มีภาษาที่ให้มาอยู่ 15 ภาษา แต่ไม่มีภาษาไทยครับ ต้องเพิ่มเอง คลิ๊กที่ Add New Language
จะมี lightbox ขึ้นมาให้เลือกภาษาที่จะเพิ่ม เลื่อนลงไปที่รูปธงชาติไทยครับ th_TH > แล้วคลิ๊กที่ปุ่ม create po-file
ขั้นตอนนี้ต้องเซ็ท permission โฟลเดอร์ /wp-content/plugins/woocommerce/i18n/languages ให้เขียนทับได้ด้วยนะครับ
จะเห็นว่ามีภาษาไทยเพิ่มเข้ามาแล้ว ต่อไปคือเราต้องทำ .mo ไฟล์ > คลิ๊กที่ Rescan > Scan Now > Finished ครับ
จากนั้นจะกลับมาที่หน้าเดิม ให้คลิ๊กที่ Edit ครับ
จะเข้ามาสู่หน้าการแปลภาษาครับ.. ตอนนี้แนะนำว่าให้แปลสัก 1 คำก่อนเพื่อให้ ระบบสร้าง .mo ไฟล์
ผมจะแปลคำว่า price คลิ๊กที่ Edit จะมีป๊อบอับขึ้นมา ก็ใส่คำแปลได้เลยครับ เสร็จแล้ว Save
จากนั้นคลิ๊กที่ปุ่ม generate mo-file (จะเห็นคำว่า last written: unknown)
ซึ่งหลังจากคลิ๊กแล้วระบบจะสร้าง .mo ไฟล์ขึ้นมา last written: วันที่และเวลา
ตอนนี้เรามี .mo ไฟล์แล้ว จะแปลตอนไหนก็ได้ครับ แปลไปบันทึกไปนะครับ คือกดปุ่ม generate mo-file หลังจากแปลเสร็จ เพราะปุ่ม Save ตอนแปลเป็นคำๆ ระบบยังไม่ได้บันทึกเข้า .mo ไฟล์ครับ
** ถ้าอับเดท woocommerce แล้วไฟล์หาย กลับมาโหลดใหม่แล้วทำตามขั้นตอนเดิมครับ
** ไฟล์ที่แปลยังไม่สมบูรณ์นะครับ ผมมีเวลาเมื่อไหร่จะแปลให้ครบครับ
Fork me on GitHub : https://github.com/taninbkk/woocommerce_thai
ปัจจุบันมีบริษัทที่เปิดให้บริการในการ รับทำเว็บไซต์ WordPress ด้วยกันเป็นจำนวนมาก การเลือกใช้ WordPress มาสร้างเว็บไซต์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้ใช้งานเว็บไซต์สามารถเรียนรู้วิธีการใช้งาน WordPress ด้วยตัวเองได้ไม่ยาก เพราะ WordPress มีรูปแบบในการจัดการด้านหลังบ้านค่อนข้างง่าย
WordPress มีนักพัฒนาจำนวนมาก เป็นผลให้มีธีมและปลั๊กอินที่เกิดขึ้นมากมาย และส่วนใหญ่จะเปิดให้โหลดใช้ฟรี เช่นปลั๊กอินร้านค้าออนไลน์ WooCommerce เป็นฟรี E-Commerce ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ของคุณเอง ง่ายในการใช้งาน และการตั้งค่าต่างๆ คุณสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ของคุณเองภายในไม่กี่วันโดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด แค่อัพโหลดรูปสินค้า ใส่ราคา ใส่รายละเอียดสินค้าต่างๆ
WooCommerce เป็นปลั๊กอินยอดนิยมของเวิร์ดเพรสที่ใช้ทำร้านค้าออนไลน์ ซึ่งมียอดการดาวน์โหลดมากกว่า 5 ล้านครั้ง (ข้อมูลจากเว็บ WordPress.org)
เรามีบริการพัฒนาธีมตามดีไซน์ของท่าน ที่ใช้ WooCommerce และรูปแบบอีคอมเมิร์ซอื่นๆ คุณสามารถหาดีไซน์หรือบอกไอเดียที่คุณมีได้ ไม่ว่าคุณจะถนัดกับระบบอีคอมเมิร์ซแบบไหนเราก็สามารถเสนอแนวทางให้คุณได้ หากท่านกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญระบบเว็บไซต์ wordpress ทีมงานเราคือคำตอบสำหรับเว็บไซต์คุณ
เรามีประสบการณ์การ รับทำเว็บไซต์ WordPress มามากมาย หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเว็บไซต์เพื่อขายสินค้าออนไลน์ด้วย WooCommerce, WP-Ecommerce เว็บไซต์ธุรกิจเฉพาะด้านต่างๆ เว็บไซต์องค์กรขนาดใหญ่ หรือเว็บไซต์ส่วนตัว ทางเราก็สามารถออกแบบเว็บไซต์ของท่านให้มีความน่าสนใจสูงสุดได้เป็นอย่างดี ซึ่ง WordPress นั้นรองรับระบบงานขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ ใช้งานง่าย รอบรับ SEO เป็นมิตรกับ search engine ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ ในระดับอินเตอร์เริ่มเปลี่ยนมาใช้เว็บไซต์เวิร์ดเพรสกันมากขึ้นทุกวัน
ในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของการจัดทำเว็บไซต์ก็คือ การออกแบบและวางระบบเว็บไซต์ ให้สามารถดึงดูดของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับนั้นมากมายเลย
เหตุผลที่ว่าทำไมต้อง ทำเว็บไซต์ด้วย WordPress
สำหรับใครที่มีความสนใจและอยากจะเริ่มต้นทำเว็บไซต์ของตนเองเป็นครั้งแรก สิ่งสำคัญที่ควรทราบเป็นอย่างแรกคือประเภทของเว็บไซต์นั้นมีด้วยกันหลายแบบทั้งแบบที่เป็นเพียงเว็บไซต์แสดงผลปกติและเว็บไซต์ที่สามารถขายของออนไลน์ได้ และแน่นอนว่าเว็บไซต์แต่ละรูปแบบนั้นย่อมมีราคาในการจัดทำแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันการถูกเอาเปรียบจากบ้างบริษัทได้อีกด้วย การรู้ถึงความต้องการที่ชัดเจนของเราเองในการทำเว็บไซต์จะช่วยให้การสร้างเว็บไซต์ใช้เวลาในการสร้างที่ไม่นานจนเกินไป
ธีม WordPress ที่แจกฟรีนั้นมีเยอะมาก แต่ธีมที่ทำแจกแล้วดูดีมีคุณภาพ ต้องใช้เวลาเลือกหากันอยู่นานพอสมควร วันนี้เรามีธีมดีๆ ของเวิร์ดเพรส สำหรับบล็อกเกอร์ (คนที่ชอบบันทึกเรื่องราวต่างๆ) มาแนะนำกันครับ เป็นธีมที่โพสคลิปวิดีโอก็ได้ รูปภาพก็ได้ แสดงผลได้ดีบนทุกอุปกรณ์ ย่อ-ขยายตามขนาดหน้าจอ ลองพรีวิวดูตัวอย่างแล้วจะชอบครับ
นักพัฒนาจำนวนมากได้สร้าง WooCommerce ธีม ให้เราได้นำไปใช้ฟรี และเวอร์ชั่นพรีเมี่ยม ที่เพิ่มประสิทธิภาพต่างๆสำหรับ WooCommerce หากคุณดาวน์โหลดเวอร์ชั่นฟรีก็อาจมีการแสดงน้ำใจโดยการบริจาคให้ผู้พัฒนาได้ผ่าน wordpress.org
สร้างโดยใช้ Bootstrap Framwork ธีมที่ดีสำหรับอุปกรณ์มือถือเช่นแท็บเล็ตและมาร์ทโฟน (Responsive) พร้อมเข้ากันได้ดีกับปลั๊กอิน WooCommerce เพื่อให้คุณสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ eStore